ในฐานะผู้ประกอบการคุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า การทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายฉลากสินค้า เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม? เพราะมันคือ หัวใจสำคัญ ในการดำเนินธุรกิจที่ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้าง ความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดย พรบ. คุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก คือ มาตรฐานที่ถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อปกป้องสิทธิของผู้บริโภค ให้มั่นใจว่าฉลากสินค้าทุกชิ้นเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและโปร่งใส เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค หลายคนอาจสงสัยว่า สคบ. คืออะไร? โดย สคบ. ย่อมาจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้โดยตรง ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมาย คุ้มครอง ผู้ บริโภค อย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความเป็นธรรมและความปลอดภัยในการเลือกซื้อสินค้านั่นเอง
ความสำคัญของฉลากสินค้า ทำไมต้องมี?
การติดฉลากสินค้าตามกฎหมายฉลากสินค้าไม่ใช่เพียงการปฏิบัติตามระเบียบเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคและสังคม ภายใต้ พรบ. คุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก ผู้ประกอบการจำเป็นต้องให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้องแก่ผู้บริโภค เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยในการใช้ผลิตภัณฑ์ รวมถึงไม่ต้องกังวลปัญหาการสั่งพิมพ์ฉลากที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยความสำคัญของฉลากสินค้านั้นมีดังนี้
สินค้าบางประเภทจำเป็นต้องมีฉลากตามที่กฎหมายกำหนด
ตามกฎหมาย คุ้มครอง ผู้ บริโภค ได้กำหนดให้สินค้าหลายประเภทต้องมีการติดฉลากสินค้าที่ถูกต้อง โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดต้องแสดงข้อมูลโภชนาการ ส่วนประกอบ และวันหมดอายุอย่างชัดเจน เพื่อความปลอดภัยในการบริโภค
- เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพต้องระบุส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ พร้อมคำเตือนและวิธีใช้ที่ถูกต้อง
- ยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ทุกชนิดต้องมีฉลากที่แสดงตัวยาสำคัญ ขนาดการใช้ และข้อควรระวังอย่างละเอียด
- ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมี เช่น น้ำยาทำความสะอาด ต้องแสดงคำเตือนและวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น
- สิ่งทอและเครื่องแต่งกายต้องระบุข้อมูลการดูแลรักษาและส่วนประกอบของเส้นใยที่ใช้
ช่วยเสริมความปลอดภัยในการเลือกซื้อ กิน และใช้สินค้าแก่ลูกค้า
การแสดงฉลากผลิตภัณฑ์ที่ครบถ้วนช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าได้อย่างปลอดภัย ประโยชน์ที่สำคัญมีดังนี้
- ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบส่วนประกอบที่อาจก่อให้เกิดการแพ้หรือไม่เหมาะกับสภาพร่างกายของตนเอง
- ช่วยให้ทราบวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง ลดความเสี่ยงจากการใช้ผลิตภัณฑ์ผิดวิธี
- สามารถตรวจสอบวันผลิตและวันหมดอายุ เพื่อความปลอดภัยในการบริโภคหรือใช้งาน
- ทราบข้อควรระวังและคำเตือนที่สำคัญ ช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
- สามารถติดต่อผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าได้โดยตรงในกรณีที่เกิดปัญหาจากการใช้ผลิตภัณฑ์

ฉลากสคบ. ที่ถูกต้อง ต้องมีออะไรบ้าง?
ในการติดฉลากสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมายฉลากสินค้า ผู้ประกอบการจำเป็นต้องให้ข้อมูลที่ครบถ้วนตาม พรบ. ฉลาก โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้
- ประเภท ชื่อ หรือชนิดของสินค้า: ต้องระบุประเภทและลักษณะของสินค้าให้ชัดเจน เช่น “น้ำผลไม้ 100%”, “เสื้อยืดผ้าฝ้าย”, “ครีมบำรุงผิวหน้า” เพื่อให้ผู้บริโภคทราบว่ากำลังซื้อสินค้าประเภทใด
- ชื่อเต็มผู้จัดจำหน่ายหรือผู้นำเข้า: ต้องระบุชื่อบริษัทหรือผู้ประกอบการที่รับผิดชอบ พร้อมประเทศที่ผลิต เช่น “ผลิตโดย บริษัท เอบีซี จำกัด ประเทศไทย”
- เครื่องหมายรับรองมาตรฐาน: แสดงเลขที่การรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เลขสารบบอาหาร อย. , เลขที่ใบรับแจ้งเครื่องสำอาง, หรือเครื่องหมาย มผช. สำหรับผลิตภัณฑ์ชุมชน
- ชื่อหรือเครื่องหมายการค้า: ต้องเป็นเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนถูกต้องในประเทศไทย พร้อมแสดงสัญลักษณ์ตามสถานะการจดทะเบียน
- ขนาด ปริมาตร หรือน้ำหนัก: ระบุปริมาณที่แน่นอนตามระบบเมตริก เช่น “น้ำหนักสุทธิ 100 กรัม”, “ปริมาตร 500 มิลลิลิตร”, “ขนาด กว้าง 50 ซม. x ยาว 70 ซม.”
- วิธีการใช้สินค้า: อธิบายขั้นตอนการใช้งานที่ชัดเจน เช่น “ชงด้วยน้ำร้อน 1 ช้อนชาต่อน้ำ 150 มล.”, “ทาบาง ๆ วันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น”
- ข้อแนะนำหรือคำเตือน: แจ้งข้อควรระวังที่สำคัญ เช่น “ห้ามใช้กับผิวที่มีบาดแผล”, “เก็บให้พ้นมือเด็ก”, “หากแพ้ให้หยุดใช้ทันที”
- วันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุ: แสดงในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เช่น “ผลิต 01/01/2025” “หมดอายุ 31/12/2024” หรือ “ควรใช้ก่อน 31/12/2024”
- ราคา: แสดงราคาขายปลีกที่ชัดเจนเป็นเงินบาท เช่น “ราคา 99 บาท”, “ราคาขายปลีกแนะนำ 199 บาท”
สินค้าแบบไหนบ้าง ที่ต้องมีในฉลากสินค้า?
ในฐานะผู้ประกอบการ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายฉลากสินค้าและการติดฉลากสินค้าอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจาก พรบ. คุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก ได้กำหนดให้สินค้าหลายประเภทต้องมีการแสดงข้อมูลบนฉลากอย่างครบถ้วน ไม่เพียงเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์และแสดงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค
ข้อมูลที่ต้องมีในฉลากสินค้าควบคุม
ตามกฎหมายฉลากสินค้า ผู้ประกอบการจำเป็นต้องแสดงข้อมูลสำคัญบนฉลากผลิตภัณฑ์เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้อง โดยมีรายละเอียดดังนี้:
- ชื่อประเภทหรือชนิดของสินค้า พร้อมระบุประเทศผู้ผลิตกรณีเป็นสินค้านำเข้า
- ชื่อและเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนในประเทศไทยของผู้ผลิต
- ชื่อและเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนในประเทศไทยของผู้สั่งหรือนำเข้ามา
- สถานที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าที่ชัดเจนและสามารถติดต่อได้
- ขนาด มิติ ปริมาณ หรือน้ำหนักที่แน่นอน พร้อมหน่วยวัดมาตรฐาน
- คำอธิบายวิธีใช้งานและวัตถุประสงค์การใช้ที่ชัดเจน
- ข้อแนะนำและข้อห้ามในการใช้งานเพื่อความปลอดภัย
- คำเตือนพิเศษ (ถ้ามี) สำหรับสินค้าที่อาจมีความเสี่ยง
- วันผลิตและวันหมดอายุที่ระบุชัดเจน
- ราคาสินค้าที่เป็นปัจจุบัน

ประเภทของสินค้าควบคุมฉลาก
ตาม พรบ. ฉลาก ได้แบ่งประเภทสินค้าที่ต้องมีการควบคุมฉลากออกเป็น 8 กลุ่มหลัก เพื่อให้การติดฉลากสินค้าเป็นไปตามกฎหมายฉลากสินค้าอย่างถูกต้อง:
- ของใช้ประจำบ้าน: รวมถึงเครื่องใช้ในครัวเรือน เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านทุกประเภท เช่น กระจกเงา กระดาษชำระ กระติกน้ำร้อน โต๊ะ ตู้ เตียง รวมถึงของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน
- ของใช้ส่วนบุคคล: ครอบคลุมอุปกรณ์เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล อาทิ แว่นตา กรอบแว่น กำไล เข็มขัด รวมถึงหน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัยที่ใช้ป้องกันโรค
- กระดาษและเครื่องเขียน: ตั้งแต่กระดาษทั่วไปจนถึงอุปกรณ์สำนักงานและการศึกษา เช่น กระดาษพิมพ์ กระดาษห่อของขวัญ สมุด และอุปกรณ์เครื่องเขียนทุกชนิดที่ใช้ในการทำงานและการเรียน
- เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์: ประกอบด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่องชงกาแฟ จอรับภาพ เครื่องเสียง โคมไฟ และอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
- ยานยนต์และอุปกรณ์: รวมถึงอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่ง และผลิตภัณฑ์ดูแลรักษายานยนต์ เช่น แบตเตอรี่ ฟิล์มกรองแสง สีสเปรย์พ่นรถ รวมถึงอะไหล่และอุปกรณ์สำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์
- เกษตรกรรม: ครอบคลุมอุปกรณ์และเครื่องมือทางการเกษตรทุกประเภท เช่น กระบอกฉีดหรือพ่นยาฆ่าแมลง คราด จอบ พลั่ว เสียม และสายยางส่งน้ำที่ใช้ในการเกษตร
- วัสดุก่อสร้าง: ตั้งแต่วัสดุพื้นฐานไปจนถึงอุปกรณ์งานช่างเฉพาะทาง อาทิ กบไสไม้ เกียง ตะปู น็อต สกรู และแผ่นฉนวนกันความร้อนที่ใช้ในงานก่อสร้าง
- อื่น ๆ : สินค้าที่ไม่เข้าข่ายประเภทข้างต้น แต่อยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมาย เช่น กรรไกร กุญแจ อุปกรณ์กีฬา เครื่องดนตรี และอัลบั้มเก็บภาพ ซึ่งต้องมีการติดฉลากที่ครบถ้วนตามข้อกำหนด
การแบ่งประเภทสินค้าควบคุมฉลากนี้ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบและปฏิบัติตามกฎหมายฉลากสินค้าได้อย่างถูกต้อง เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์
การป้องกันการปลอมแปลงฉลากสินค้าด้วย Security Label จาก Sticker to You
การปลอมแปลงสินค้าเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อทั้งธุรกิจและลูกค้า ส่งผลให้กฎหมายฉลากสินค้ามีความเข้มงวดในเรื่องของการให้ความสำคัญกับการป้องกันการปลอมแปลง โดย Sticker to You ได้พัฒนา ระบบ Security Label ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตาม พรบ. คุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก พร้อมทั้งปกป้องแบรนด์และสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่าจะได้รับสินค้าแท้ 100% ด้วยเทคโนโลยีการป้องกันการปลอมแปลง 3 รูปแบบดังนี้
1. นวัตกรรมสติกเกอร์หูโปรแกรม 3D (3D Security Hologram)
เทคโนโลยีการพิมพ์สติกเกอร์พิเศษที่สร้างภาพสามมิติเคลื่อนไหวได้เมื่อมองในมุมต่าง ๆ ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่ไม่สามารถถ่ายเอกสารหรือสแกนเพื่อทำซ้ำได้ หากมีการพยายามลอกออกจะเกิดความเสียหายทันที ทำให้ตรวจสอบการงัดแงะได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มความปลอดภัยด้วยเอฟเฟ็กต์พิเศษที่มองเห็นได้ภายใต้แสง UV ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบความแท้ได้ด้วยตาเปล่า เหมาะสำหรับสินค้าที่มีมูลค่า เอกสารสำคัญ และผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความปลอดภัยสูง
2. ระบบ QR Code อัจฉริยะพร้อม Serial Number
นวัตกรรมการสร้าง Serial Number เฉพาะที่ไม่ซ้ำกันสำหรับสินค้าแต่ละชิ้น ทำงานร่วมกับระบบ QR Code อัจฉริยะที่เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลแบบเรียลไทม์ เมื่อผู้บริโภคสแกน QR Code จะสามารถตรวจสอบข้อมูลสินค้าและยืนยันความแท้ได้ทันที ระบบนี้ไม่เพียงป้องกันการปลอมแปลง แต่ยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. เทคโนโลยีฉลากความปลอดภัยแบบพิเศษ
ระบบป้องกันการปลอมแปลงหลายชั้นที่ผสมผสานนวัตกรรมการพิมพ์ขั้นสูง ทั้งการใช้หมึกพิมพ์พิเศษที่มองเห็นได้ภายใต้แสง UV ลวดลายแบบพิเศษสำหรับตรวจสอบสินค้าว่าเป็นของแท้ และวัสดุพิเศษที่แสดงร่องรอยชัดเจนเมื่อมีการงัดแงะ พร้อมระบบการพิมพ์ความละเอียดสูงที่ยากต่อการลอกเลียนแบบ ทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสำหรับการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า
หากต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายฉลากสินค้า Sticker to You ยินดีให้คำปรึกษาเสมอ!
การปฏิบัติตามกฎหมายฉลากสินค้าอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการทุกราย Sticker to You พร้อมให้คำปรึกษาและบริการครบวงจรเพื่อให้การติดฉลากสินค้าของคุณเป็นไปตาม พรบ. คุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก อย่างครบถ้วน
- ออกแบบฉลากให้ถูกต้องตามกฎหมาย: ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมช่วยออกแบบฉลากที่แสดงข้อมูลครบถ้วนตามที่ สคบ. กำหนด พร้อมทั้งสร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์ของคุณ
- เลือกวัสดุที่เหมาะสมกับประเภทสินค้า: เรามีวัสดุคุณภาพสูงที่หลากหลาย ทั้งสติกเกอร์กันน้ำ สติกเกอร์ใส สติกเกอร์ทนความร้อน เหมาะสำหรับสินค้าทุกประเภทตามที่กฎหมายควบคุม
- บริการครบวงจร รวดเร็ว มั่นใจได้: ตั้งแต่ให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย ออกแบบ ผลิต จนถึงจัดส่ง เราดูแลทุกขั้นตอนเพื่อให้ฉลากสินค้าของคุณถูกต้องและสวยงาม
ด้วยประสบการณ์ด้านการผลิตฉลาก ผลิตภัณฑ์สินค้า และความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายฉลากสินค้า Sticker to You พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมั่นคงและถูกต้องตามกฎหมาย
สรุป
คุณเคยคิดบ้างไหมว่า การติดฉลากสินค้าที่ถูกต้องอาจเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจของคุณโดดเด่น และสร้างความน่าเชื่อถือได้มากขึ้น? กฎหมายฉลากสินค้า จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติตาม แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างความปลอดภัย ให้กับผู้บริโภคและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของคุณได้อีกด้วย
ด้วยความเชี่ยวชาญจากทีม Sticker to You เราพร้อมให้คำปรึกษาและบริการด้านการจัดทำฉลากผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ที่จะช่วยให้คุณปฏิบัติตามกฎหมายและยกระดับธุรกิจของคุณให้เหนือกว่าคู่แข่ง เราจะพาคุณไปสู่การออกแบบและผลิตฉลากที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพ ติดต่อเราวันนี้ เพื่อเริ่มต้นสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของคุณและก้าวสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม! คุณพร้อมหรือยังที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงแล้วหรือยัง?
คำถามที่พบบ่อย
ฉลากสินค้าควบคุม สคบ. มีอะไรบ้าง?
ตามกฎหมายฉลากสินค้า ได้กำหนดให้การติดฉลากสินค้าต้องแสดงข้อมูลสำคัญ 9 ข้อดังนี้
- ประเภท, ชื่อ, หรือชนิดของสินค้า: ระบุลักษณะสินค้าให้ชัดเจน เช่น “น้ำผลไม้ 100%” “ครีมบำรุงผิว” “เสื้อยืดคอกลม”
- ชื่อเต็มผู้จัดจำหน่าย หรือ นำเข้า ต้องระบุประเทศด้วย: แสดงชื่อบริษัทและประเทศผู้ผลิต เช่น “ผลิตโดย บริษัท ABC จำกัด ประเทศไทย”
- เครื่องหมาย เลขสารบบอาหาร(อย.), เลขที่ใบรับแจ้ง, มผช. : แสดงเลขทะเบียนรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- ชื่อหรือเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียน: แสดงโลโก้หรือชื่อแบรนด์ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้อง
- ขนาด ปริมาตร หรือ น้ำหนัก ของสินค้า: ระบุปริมาณที่ชัดเจน เช่น “250 มล.” “500 กรัม” “ขนาด L”
- วิธีการใช้สินค้า: อธิบายขั้นตอนการใช้งานที่ถูกต้อง เช่น “ทาบางๆ วันละ 2 ครั้ง”
- ข้อแนะนำ หรือ คำเตือน (ถ้ามี): แจ้งข้อควรระวังที่สำคัญ เช่น “ห้ามใช้กับผิวที่มีบาดแผล”
- วันเดือนปีที่ผลิต และ หมดอายุ: ระบุวันที่ผลิตและวันหมดอายุที่ชัดเจน เช่น “ผลิต 01/01/2024” “หมดอายุ 31/12/2024”
- ราคาพร้อมระบุหน่วยบาท: แสดงราคาขายปลีกที่ชัดเจน เช่น “ราคา 99 บาท”
ข้อมูลทั้งหมดนี้ต้องแสดงอย่างชัดเจนบนฉลากผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เป็นไปตาม พรบ. คุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก และสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้า
สินค้าชนิดใดบ้างที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องติดฉลาก?
ตามกฎหมายฉลากสินค้าและ พรบ. คุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก ได้กำหนดข้อยกเว้นสำหรับสินค้าบางประเภทที่ไม่จำเป็นต้องมีการติดฉลากสินค้า เนื่องจากผู้บริโภคสามารถได้รับข้อมูลโดยตรงจากผู้ขาย ดังนี้
- อาหารสดที่ผู้ผลิตหรืออาหารแปรรูปสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารที่ผลิตแก่ผู้บริโภคได้ในขณะนั้น เช่น หาบเร่ แผงลอย พ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าและพบปะกับลูกค้าโดยตรง หรือเป็นอาหารที่ปิดเกือบสนิทหรือไม่ปิดฝาเลย
- อาหารสดที่ไม่ผ่านกรรมวิธีใด ๆ ซึ่งจำหน่ายโดยตรงจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภค เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์สด ที่วางขายในตลาดสดหรือร้านค้าชุมชน
- อาหารในภาชนะบรรจุที่ผลิตและจำหน่ายเพื่อบริการภายในร้านอาหาร เช่น ซอส น้ำจิ้ม หรือเครื่องปรุงที่ทางร้านจัดเตรียมไว้สำหรับบริการลูกค้าภายในร้านเท่านั้น
สินค้าใดต้องมีฉลาก?
ตามกฎหมาย คุ้มครอง ผู้ บริโภค สินค้าที่ต้องมีฉลากประกอบด้วย อาหารและเครื่องดื่มทุกชนิด เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขอนามัย ยาและเครื่องมือแพทย์ทุกประเภท สารอันตรายเช่นน้ำยาทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์สิ่งทอรวมถึงเสื้อผ้าทุกชนิด
กฎหมายกำหนดให้ฉลากสินค้าต้องแสดงข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องใดบ้าง?
การติดฉลากสินค้าตามที่กฎหมายกำหนดต้องแสดงข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วน ได้แก่ ประเภทและชื่อสินค้า ข้อมูลผู้ผลิตหรือนำเข้า ประเทศที่ผลิต เครื่องหมายการค้า ขนาดหรือปริมาณ วิธีใช้งาน คำเตือนหรือข้อควรระวัง วันผลิตและวันหมดอายุ รวมถึงราคาที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า