การดูแลผิวกลายเป็นส่วนสำคัญของกิจวัตรประจำวันของทุกคน และไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็ปรารถนาที่จะมีผิวที่เปล่งปลั่ง ดูมีสุขภาพดี ซึ่งในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ดูแลผิวก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอยู่เสมอ หนึ่งในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือครีมบำรุงผิว อย่างไรก็ตาม ด้วยครีมบำรุงผิวที่มีอยู่มากมายในท้องตลาด การแยกความแตกต่างของครีมแต่ละแบรนด์อาจเป็นเรื่องยากสำหรับผู้บริโภค ดังนั้นหากคุณกำลังคิดจะผลิตครีมแบรนด์ตัวเอง การสร้างจุดขายที่แข็งแกร่งให้กับครีมบำรุงผิวของคุณ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ในบทความนี้เราจะมานำเสนอ 7 วิธีสร้างจุดขายให้กับผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิว ที่ในยุคนี้การชูจุดเด่นแค่เรื่องความขาวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป
7 วิธีสร้างแบรนด์ครีม ให้โดดเด่นอยู่เหนือคู่แข่ง
1. ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ
เทรนด์ของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกำลังเปลี่ยนไป การสร้างแบรนด์ครีมต้องหันมาใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติและเป็นออร์แกนิก เพราะผู้บริโภคมีความตระหนักมากขึ้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวตนเอง และมักเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารเคมีที่รุนแรง ดังนั้นการผสมผสานส่วนผสมจากธรรมชาติและออร์แกนิกเข้ากับครีมบำรุงผิวของคุณ อาจเป็นจุดขายที่สำคัญ ตัวอย่างของสารที่มาจากส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น ว่านหางจระเข้ น้ำมันมะพร้าว และเชียร์บัตเตอร์ วิธีนี้จะทำให้สามารถดึงดูดลูกค้าที่กำลังมองหาตัวเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ดีต่อสุขภาพได้
2. มีคุณสมบัติเพื่อจัดการกับปัญหาผิวโดยเฉพาะ
ความกังวลเรื่องความผิดปกติของผิวหนัง เช่น สิว ริ้วรอย และรอยเหี่ยวย่น เป็นจุดสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคยินดีเลือกซื้อครีมบำรุง และมักจะมองหาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะของพวกเขาได้เป็นอันดับแรก หากคุณสามารถสร้างแบรนด์ครีมที่กำหนดเป้าหมายไปยังปัญหาผิวที่เฉพาะเจาะจงได้ ก็จะกลายเป็นจุดขายที่สำคัญได้ ตัวอย่างเช่น หากครีมของคุณมีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นในการต่อสู้กับสิว คุณจะสามารถมุ่งเป้าทำการตลาดให้กับผู้คนที่มีปัญหาผิวเป็นสิวได้ง่ายได้ หรือหากครีมของคุณมีส่วนผสมของเรตินอล ที่สามารถช่วยลดเลือนเส้นริ้วและรอยเหี่ยวย่นได้ ผู้บริโภคที่มีปัญหานี้ก็ย่อมสนใจสินค้าของคุณนั่นเอง
3. มีผลการวิจัยเชิงทดลองทางคลินิก
ผู้บริโภคมักจะมองหาผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการทดสอบและพิสูจน์แล้วว่าได้ผลลัพธ์จริง และไม่ก่อให้เกิดอันตราย ดังนั้นการวิจัยเชิงทดลองทางคลินิกที่เกี่ยวกับครีมบำรุงผิวของจะเป็นอีกจุดขายที่สำคัญ การใช้หลักฐานและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาอ้างอิง จะสามารถช่วยให้ผู้บริโภคเชื่อถือผลิตภัณฑ์ของคุณ และตัดสินใจซื้อได้อย่างไม่ลังเล อย่างเช่น หากครีมบำรุงผิวของคุณได้รับการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง และได้แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ในเรื่องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ ก็ย่อมสามารถชูจุดขายนี้ในการทำการตลาดได้ทันที
4. ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ซ้ำใคร
รู้หรือไม่ว่าการสร้างแบรนด์ครีมนั้น บรรจุภัณฑ์ของครีมบำรุงผิวสามารถใช้เป็นจุดขายได้เช่นกัน ผู้บริโภคมักชอบผลิตภัณฑ์ที่ดูดึงดูดและโดดเด่นกว่าผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ดังนั้นการลงทุนในบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ซ้ำใคร สามารถช่วยให้ครีมบำรุงผิวของคุณโดดเด่นบนชั้นวางได้ ทั้งนี้ยังรวมไปถึงฉลากสินค้า รูปทรงกล่อง โลโก้ การใช้สีบนบรรจุภัณฑ์ และรวมถึงการออกแบบ Banner สำหรับช่องทางการตลอดออนไลน์ด้วย
และเรามี 8 ไอเดียง่าย ๆ สำหรับใช้ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ที่ทำตามแล้วได้ผลดีมาฝากคุณดังนี้
- 1. ออกแบบอย่างเรียบง่าย มินิมอล ยังคงให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงเสมอ เลือกใช้กราฟิกและข้อความที่เรียบง่ายเพื่อถ่ายทอดลงบนผลิตภัณฑ์
- 2. เพิ่มจุดสนใจ เลือกใช้สีที่โดดเด่น รูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ หรือพื้นผิวที่ดึงดูดสายตา จะทำให้ผลิตภัณฑ์โดดเด่นบนชั้นวางสินค้า
- 3. บรรจุภัณฑ์ต้องใช้งานได้จริง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าฟังก์ชันต่าง ๆ ของบรรจุภัณฑ์ต้องใช้งานได้จริง ใช้งานง่าย และทำให้ผลิตภัณฑ์ภายในปลอดภัย เช่น กล่องต้องแข็งแรง ซีลต่าง ๆ ต้องปิดแน่นแต่เปิดง่าย ไส้ล็อกสินค้าแข็งแรงล็อกได้จริง เป็นต้น
- 4. เน้นการสร้างแบรนด์บนบรรจุภัณฑ์ ใช้บรรจุภัณฑ์เพื่อแสดงเอกลักษณ์ของแบรนด์ รวมถึงโลโก้ สี สโลแกน และข้อความต่าง ๆ
- 5. คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลหรือใช้ซ้ำได้
- 6. การออกแบบต้องสอดคล้องกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่า การออกแบบบรรจุภัณฑ์สอดคล้องกับเอกลักษณ์ของแบรนด์ และองค์ประกอบการออกแบบต้องสอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ด้วยเช่นกัน
- 7. ลูกค้าต้องหยิบจับสะดวก บรรจุภัณฑ์ควรง่ายต่อการจัดเก็บ ขนส่ง และใช้เปิดงาน
- 8. เพิ่มมูลค่า หากพื้นที่บนบรรจุภัณฑ์มีเหลือเพียงพอ เพียงใส่เคล็ดลับการบำรุงผิว ขั้นตอนการใช้ครีมบำรุงแต่ละตัว ก็สามารถเพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้นได้แล้ว
5. Social Proof พลังจูงใจจากเสียงของคนในสังคม
Social Proof คือจุดขายที่ทรงพลังในยุคดิจิทัลแบบปัจจุบันนี้ ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะเชื่อถือผลิตภัณฑ์หากได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกจากผู้บริโภคคนอื่น ๆ ดังนั้นการผสาน Social Proof เข้ากับกลยุทธ์ทางการตลาดของคุณ อาจกลายเป็นจุดขายที่สำคัญ ขอแนะนำว่า คุณควรขอให้ลูกค้าที่พึงพอใจในผลิตภัณฑ์ช่วยเขียนรีวิวเชิงบวกให้กับคุณ ซึ่งจะสามารถช่วยสร้างความไว้วางใจและดึงดูดลูกค้าคนอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้เมื่อคุณผลิตครีมแบรนด์ตัวเองเรียบร้อยแล้ว ยังสามารถทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์และบล็อกเกอร์ที่มีฐานแฟนคลับเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณ เพื่อโปรโมตครีมบำรุงผิวและเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น
6. การแสดงสรรพคุณ ของดีต้องกล้าบอก
ผู้บริโภคมักจะมองหาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่สามารถสร้างผลลัพธ์ให้เกิดขึ้นได้จริง ดังนั้นการแสดงสรรพคุณของผลิตภัณฑ์อย่างตรงไปตรงมา จะเป็นจุดขายที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือ คุณต้องแน่ใจว่าคำกล่าวอ้างนั้นเป็นความจริง และได้รับการสนับสนุนจากข้อมูลการวิจัยเชิงทดลองทางคลินิกที่เชื่อถือได้ และต้องระวังคำกล่าวอ้างที่อาจมีผลกระทบทางกฎหมายเครื่องสำอางได้
7. กำหนดราคาขายอย่างเหมาะสม
แม้แต่ราคาขายของครีมบำรุงผิวก็สามารถกลายเป็นจุดขายได้เช่นกัน เพราะผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายแพงขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลลัพธ์ได้จริง ดังนั้นหากครีมบำรุงผิวของคุณมีราคาสูงกว่าครีมอื่น ๆ ในท้องตลาด การเน้นนำเสนอที่ส่วนผสม สรรพคุณ และข้อมูลการวิจัยเชิงทดลองทางคลินิก จะสามารถทำให้กำหนดราคาที่เหมาะสมได้ และทำให้ขายได้ง่ายขึ้นแม้จะมีราคาที่สูงกว่าคู่แข่งก็ตาม
โดยสรุปแล้ว การสร้างจุดขายที่แข็งแกร่งสำหรับผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการดึงดูดลูกค้าในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งทั้ง 7 วิธีที่เราแนะนำไปล้วนเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสำหรับการสร้างแบรนด์ครีมของคุณ อย่างไรก็ตาม การสร้างจุดขายที่แข็งแกร่งเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะรับประกันความสำเร็จในธุรกิจนี้ได้ คุณภาพของผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ของลูกค้า ยังคงมีความสำคัญในการสร้างฐานลูกค้าให้เกิดเป็น Loyalty Brand ดังนั้นสิ่งสำคัญอีกข้อคือ ต้องมุ่งเน้นการสร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง การให้บริการลูกค้าที่เป็นเลิศ และสร้างชื่อเสียงของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เมื่อรวมองค์ประกอบเหล่านี้เข้าด้วยกัน คุณจะสามารถสร้างสูตรที่ชนะใจลูกค้าได้ และดึงดูดลูกค้าที่ภักดีซึ่งจะกลับมาซื้อซ้ำและบอกต่อคนอื่น ๆ ได้โดยไม่หนีไปหาแบรนด์อื่น