⚪ ในปีนี้เราได้เห็นว่าอีคอมเมิร์ซมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของเราแค่ไหน แต่อีคอมเมิร์ซคุณจะสูญเสียประสบการณ์ในการเดินผ่านร้านค้าและสัมผัสกับบรรยากาศของแบรนด์
⚪ ดังนั้นนักออกแบบบรรจุภัณฑ์และเจ้าของธุรกิจจึงเพิ่มความสามารถในการนำเสนอแบรนด์ที่ตรงใจคุณ⚪ เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่การแทนที่ประสบการณ์ในร้าน แต่เพื่อตอบสนองผู้บริโภค
⚪ ประสบการณ์แบรนด์ใหม่ที่น่าประทับใจยิ่งขึ้นผ่านเทรนด์บรรจุภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของปี 2021
🟡 เทรนด์การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับปี 2021 มีดังนี้
1. การใช้ลวดลายหรือรูปภาพเล็กสื่อให้เห็นว่าสินค้านั้นคืออะไร
Tiny illustrated patterns that reveal what’s inside (การใช้รูปแบบลวดลายหรือรูปภาพเล็ก ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าอะไรอยู่ภายใน)
ลวดลายหรือรูปภาพเป็นได้มากว่าการใช้ประดับตกแต่งบรรจุภัณฑ์ พวกมันสามารถแสดงให้เห็นว่าสินค้านั้นคืออะไร ในปี 2021 คาดหวังว่าลวดลายที่ซับซ้อนและรูปภาพประกอบเล็ก ๆที่อยู่บนบรรณจุภัณฑ์จะสามารถเกริ่นให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในได้อย่างดี
ภาพประกอบเหล่านี้มักจะเป็นรูปแบบง่ายๆหรือเป็นนามธรรม มันเป็นศิลปะที่ทำให้คุณสามารถเข้าใจสินค้าภายในบรรจุภัณฑ์มากกว่าการดูตัวสินค้า ตัวอย่างเช่น แบรนด์ chips แทนที่จะใช้รูป tortilla chips แต่อาจจะใช้เป็นรูปสามเหลี่ยมตกแต่งบนถุงบรรจุภัณฑ์เพื่อชวนให้นึกถึง tortilla chips แทน
ในปี 2021 คาดว่าจะได้เห็นการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ใช้รูปภาพประกอบขนาดเล็กและ patterns ที่มีความซับซ้อน เช่น งานออกแบบของ Gstar แบรนด์ Nourish หรือ งานออกแบบของ Cime ที่ออกแบบป๊อปคอร์นมินิมอลสุดน่ารัก ที่จะสามารถแสดงให้คุณได้เห็นสินค้าที่อยู่ด้านใน
2. บรรจุภัณฑ์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์วินเทจ
Authentically vintage unboxing experience (ประสบการณ์การเปิดกล่องวินเทจโดยแท้จริง)
บรรจุภัณฑ์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์วินเทจเป็นเทรนด์การออกแบบมาระยะหนึ่งแล้ว ในปี 2021 นั้นคุณจะไม่ได้เห็นบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวินเทจแบบทั่ว ๆไป แต่คุณจะได้เห็นบรรจุภัณฑ์ที่มีรูปลักษณ์และให้ความรู้สึกแบบ old-school อย่างแท้จริง จนทำให้ประสบการณ์เปิดกล่องดูเหมือนกับว่าคุณได้ย้อยยุคหรือเดินทางข้ามเวลาไปตอนนั้นอย่างแท้จริง
นั่นหมายถึงการออกแบบโลโก้และฉลากได้ก้าวไปไกลและครอบคลุมกับประสบการณ์ของแบรนด์ทั้งหมด ซึ่งใช้แรงบันดาลใจจากการออกแบบวินเทจทั้งรูปแบบ textures, bottle shapes, materials, outer packaging และ imagery ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นลูกเล่นย้อนยุคที่ดูสนุกสนานในแพ็คเกจอีกต่อไป แต่ยังทำให้ตัวแพ็คเกจรู้สึกเหมือนถูกดึงออกมาจากชั้นวางที่ถูกแช่แข็งเป็นเวลานาน
3. การออกแบบที่ใช้แนวคิดทางเรขาคณิต
Hyper-simplistic geometry
เป็นอีกหนึ่งเทรนด์บรรจุภัณฑ์ที่เราจะได้เห็นในปี 2021 คือการออกแบบที่ใช้แนวคิดทางเรขาคณิตที่เรียบง่าย แต่มีความโดดเด่น เราจะเห็นรูปทรงเรขาคณิตที่มีความหนาขึ้นด้วยเส้นที่มีความประณีต มุมที่คมชัด และสีที่ทำให้การออกแบบบรรจุภัณฑ์มีขอบ (ตามตัวอักษร) เช่นเดียวกับการใช้รูปแบบลวดลายที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถมองเห็นความหมายของผลิตภัณฑ์ที่จะสื่อออกมา แต่แตกต่างจาก patterns และ illustrations ที่แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่อยู่ภายในกล่อง มันอาจจะดูเหมือนเรียบง่ายในการออกแบบ แต่มันเป็นวิธีที่มีผลอย่างมากสำหรับแบรนด์ที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ซื้อ
4. การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นงานศิลปะมากขึ้น
Packaging dressed in fine art
ในปี 2564 คาดว่าจะได้เห็นการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นงานศิลปะมากขึ้น ซึ่งแนวโน้มนี้ส่วนใหญ่ได้รับแรงผลักดันจากผลิตภัณฑ์ระดับ high-end แต่ก็ยังสามารถเห็นได้ในผลิตภัณฑ์ mid-range ด้วย นักออกแบบได้แรงบันดาลใจมากจากการวาดและพื้นผิวสัมผัสของสี โดยผสมผสานทั้ง 2 สิ่งเข้าด้วยกันให้ออกมาดูสนุกสนานหรือมีจุดโฟกัส ซึ่งมีจุดมุ่งหมายคือการมีเส้นแบ่งระหว่างการออกแบบบรรจุภัณฑ์และงานศิลปะ แม้กระทั่งการออกแบบขวดไวน์สักขวดที่สุดท้ายจะต้องนำกลับมาใช้ใหม่ก็ยังสวยงามและมีความเป็นเอกลักษณ์ได้ไม่เหมือนใคร แนวโน้มนี้ส่วนใหญ่มาจากภาพวาดแบบนามธรรมและเทคนิค fluid painting ในการออกแบบพื้นผิวสัมผัสเป็นกุญแจสำคัญ และนักออกแบบบรรจุภัณฑ์ต่างก็เลียนแบบพื้นผิวสัมผัสและเอฟเฟกต์ที่คุณเห็นบนภาพวาดสีน้ำมันที่แห้งเป็นเวลานานหรือภาพวาดเรซินที่เทใหม่
5. การออกแบบที่ให้ความรู้สึกเหมือนลงหมึกด้วยมือส าหรับสิ่งพิมพ์วิทยาศาสตร์ (และบางครั้งก็เหนือจริง)
Technical and anatomical ink drawings
โดยรวมแล้วเทรนด์บรรจุภัณฑ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2564 ให้ความรู้สึกเหมือน “ห้องแสดงงานศิลปะ” มากกว่า “การออกแบบกราฟิกเชิงพาณิชย์” นอกเหนือจากรูปทรงเรขาคณิตและพื้นผิวสัมผัสแล้วคุณอาจจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ที่คุณชื่นชอบ (และจะเป็นที่ชื่นชอบในไม่ช้า) จำนวนมากที่อัดแน่นไปด้วยการออกแบบที่ให้ความรู้สึกเหมือนลงหมึกด้วยมือสำหรับสิ่งพิมพ์วิทยาศาสตร์ (และบางครั้งก็เหนือจริง)
6. Color blocking (การจับคู่สีที่มีขั้วตรงข้ามมาตัดกัน ท าให้เกิดลุคใหม่ที่แปลกตา ดึงดูดใจต่างออกไปจากเดิม)
Organically shaped color blocking
Color blocking (การจับคู่สีที่มีขั้วตรงข้ามมาตัดกัน ทำให้เกิดลุคใหม่ที่แปลกตา ดึงดูดใจต่างออกไปจากเดิม) ไม่ใช่สิ่งใหม่ ในปี 2021 สิ่งที่แยก Color blocking ออกจากปีก่อนหน้าคือพื้นผิวการผสมสีที่เป็นเอกลักษณ์ การผสมสีที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และลักษณะการ blocks ที่มีน้ำหนักต่างแตกกันไป รูปแบบสีเหล่านี้จะไม่ชัดเจนและมีการตัดขอบตรง ซึ่งทำให้เกิดกริดและเส้น เป็นภาพตัดปะที่ไม่สม่ำเสมอไม่สมดุลเป็นคลื่นกระและมีรอยหยัก
7.การออกแบบชื่อผลิตภัณฑ์ให้เป็นจุดสนใจ และใช้ตัวอักษรเพื่อให้ชื่อของผลิตภัณฑ์เป็นจุดศูนย์กลาง
Product names front and center
แทนที่จะทำให้ภาพประกอบหรือโลโก้เป็นจุดโฟกัสของบรรจุภัณฑ์ นักออกแบบกลับเลือกให้ชื่อผลิตภัณฑ์เป็นดาวเด่นในการออกแบบแทน และใช้ตัวอักษรเพื่อให้ชื่อของผลิตภัณฑ์เป็นจุดศูนย์กลาง แต่ละชื่อบนการออกแบบบรรจุภัณฑ์เหล่านี้ให้ความรู้สึกเหมือนงานศิลปะทำให้การออกแบบทั้งหมดมีลักษณะที่โดดเด่น จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าผลิตภัณฑ์นี้เรียกว่าอะไรหรือเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทใด เทรนด์นี้เหมาะกับธุรกิจที่เน้นผลิตภัณฑ์และเพิ่มการรับรู้ถึงรูปแบบของแบรนด์
8.งานออกแบบที่กราฟฟิกเล่นกับรูปทรงที่ไม่สมบูรณ์แบบทางกายภาพ
Picture-perfect symmetry (การออกแบบรูปภาพสมมาตรแบบสมบูรณ์)
เป็นงานออกแบบที่นักออกแบบเล่นกับรูปทรงที่ไม่สมบูรณ์แบบทางกายภาพ แต่สร้างสรรค์ชิ้นงานให้ออกมามีความสมมาตรที่สมบูรณ์ การออกแบบเหล่านี้จะดึงดูดความรู้สึกของผู้ซื้อที่ทำให้รู้สึกถึงความมีระเบียบท่ามกลางรูปแบบการออกแบบที่มีสับสนวุ่นวาย แต่การออกแบบเทรนด์นี้ไม่ใช่แค่มีความพอดีและซับซ้อนอย่างเดียว เช่น การออกแบบของ Raluca De ในการออกแบบสินค้าแบรนด์ Yerba Mate original เป็นรูปแบบที่น้อยกว่าและไม่มีการเชื่อมโยงของเส้นกันมากนัก เพื่อไม่ให้รู้สึกเป็นพื้นที่ปิดเกินไป ซึ่งมีความสมมาตรพอๆกับการออกแบบที่ซับซ้อนกว่า ในการออกแบบเทรนด์จะสร้างความน่าพอใจของความสมบูรณ์แบบของแบรนด์ซึ่งมันเป็นลักษณะเฉพาะของเทรนด์นี้
9. การออกแบบโดยการเล่าเรื่อง
Story-driven packaging featuring quirky characters
เป็นการเล่าเรื่องเป็นส่วนสำคัญของการสร้างแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพ และในปี 2564 คุณจะได้เห็นแบรนด์มากมายมีการเล่าเรื่องลงบนบรรจุภัณฑ์ ซึ่งแทนที่จะใช้แค่มาสคอตเพื่อบอกเล่าเรื่องราวแต่คุณจะได้เห็นตัวละครเหล่านี้เป็นฉาก ๆ เหมือนกับคุณกำลังดูแผงนิยายภาพแต่ละแผง แทนที่จะต้องไปที่เว็บไซต์ของแบรนด์เพื่ออ่านเรื่องราวของพวกเขาหรือสรุปเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ของพวกเขาผ่านโฆษณา แต่ทางแบรนด์จะบอกเล่าเรื่องราวในแพ็คเกจจากผลิตภัณฑ์ที่คุณซื้อ
ตัวละครพวกนี้ทำให้เรื่องราวของแบรนด์มีชีวิตชีวาโดยมักจะเป็นรูปแบบการ์ตูนสนุกสนานที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังอ่านหนังสือการ์ตูน ตัวอย่างเช่น การออกแบบ Peachocalypse ของ St. Pelmeni ซึ่งทำให้เราได้เห็นฉากลูกพีชยักษ์โจมตีเมืองอย่างเต็มรูปแบบ
10. การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ใช้สีที่สดใสและมีความโดดเด่น
Solid all-over color
สิ่งที่คุณจะสังเกตได้เกี่ยวกับการออกแบบบรรจุภัณฑ์นี้ก็คือโดยส่วนใหญ่จะใช้สีที่สดใสและมีความโดดเด่น นั่นคือสิ่งที่ทำให้เทรนด์นี้ดูสดใหม่ที่ไม่ใช่แค่บรรจุภัณฑ์สีขาวล้วน เช่นการออกแบบของ Eva Hilla สำหรับ Babo พวกเขาเลือกเฉดสีที่แปลกตาซึ่งสร้างอารมณ์และชี้นำสายตาของผู้ซื้อไปยังสินค้าโดยตรง ด้วยการออกแบบเช่นนี้ทำให้ผู้ซื้อเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แทนที่จะแสดงให้เห็นทันที
Source : DesignTAXI – https://99designs.com/blog/trends/packaging-design-trends/
Create : NokCB – Branding, Corporate Branding, Communications Branding & Consultant