ฉลากสินค้า
ฉลากสินค้า คือ สิ่งที่จะต้องติดอยู่บนสินค้า จุดประสงค์เพื่อบอกรายละเอียดข้อมูลของสินค้าให้แก่ผู้บริโภคทราบถึงรายละเอียดและข้อมูลสำคัญของสินค้านั้นๆ เช่น ชื่อตรายี่ห้อของสินค้า, ส่วนประกอบ, มาตรฐานการผลิต, วันหมดอายุ, คำเตือนต่างๆ เพื่อความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค
ประเภทของฉลากสินค้า
- ฉลากสินค้าแบบสติ๊กเกอร์ : นิยมใช้กับสินค้าทั่วไป ราคาไม่แพง สามารถพิ์มและเพิ่มลวดลายได้ง่าย มีทั้งแบบกันน้ำและไม่กันน้ำ
- ฉลากสินค้าแบบพลาสติกหดรัด : ผลิตจากพลาสติกที่สามารถหดตัวได้เมื่อถูกความร้อน ซึ่งจะทำให้ฉลากแนบสนิทเรียบเนียนไปกับรูปร่างของบรรจุภัณฑ์ นิยมใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม, อุตสาหกรรมเคมี, อุตสาหกรรมยา
- ฉลากสินค้าแบบโฮโลแกรม : ฉลากภาพแบบสามมิติ ฉลากที่เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการความปลอดภัยสูง ในด้านการป้องกันการปลอมแปลงสินค้า
ทำไมการมีฉลากสินค้าที่ดีถึงสำคัญ?
- สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค : การมีข้อมูลที่ครบถ้วนช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกปลอดภัย
- ป้องกันการปลอมแปลง : โดยเฉพาะฉลากโฮโลแกรมที่ช่วยป้องกันการปลอมแปลงได้
- เพิ่มความน่าสนใจให้สินค้า : ฉลากสวยงามและมีดีไซน์ที่โดดเด่นสามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้
- สอดคล้องกับกฎหมาย : การมีฉลากที่ถูกต้องตามกฎหมายช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายในอนาคต
ตัวอย่าง ฉลากสินค้า
ตัวอย่างฉลากสินค้า ที่ต้องระบุข้อมูลลงไปให้ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริงและไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างผู้บริโภคกับข้อมูลของสินค้า และ ต้องระบุเป็นภาษาไทยหรือกำกับภาษาต่างประเทศให้ชัดเจน เช่น :
- ประเภทของสินค้า : ชื่อประเภทหรือชนิดของสินค้า (ระบุชื่อประเทศที่ผลิตด้วย)
- จัดจำหน่ายโดย : ชื่อผู้ผลิตที่จดทะเบียนในประเทศไทยของผู้สั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย
- ชื่อ ยี่ห้อ : เครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนประเทศไทย
- ผลิตโดย : สถานที่ตั้งของผู้ผลิตเพื่อขาย
- ขนาดและปริมาณของสินค้า : ต้องแสดงปริมาณ หรือขนาด หรือปริมาตร หรือน้ำหนักของสินค้า
- วิธีการใช้ : ต้องแสดงวิธีใช้ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าสินค้านั้นใช้เพื่อสิ่งใด
- คำแนะนำ : คำแนะนำในการใช้หรือห้ามที่ประโยชน์แก่ผู้บริโภค
- คำเตือน : การจัดเก็บในที่ร้อนหรือเย็น อื่นๆ ที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค
- วันที่ผลิต : วันเดือนปีที่ผลิต หรือวันเดือนปีที่หมดอายุ
- ราคา : ราคา โดยระบุหน่วยเป็นเงินบาท หรือ เงินสกุลอื่นด้วยก็ได้